Friday, February 27, 2015

My Favorite 12 Small Towns in the Whole Wild World : part I


     บทความประจำเดือนแห่งความรักนี้ ว่าด้วยเมืองเล็กๆทั่วโลกที่เราหลงรัก ที่มีบรรยากาศสวยงาม โรแมนติก และแสนชิล เลยขอรวบรวมเป็น 12 เมืองเล็กๆไว้แนะนำผู้อ่าน หากมีโอกาสผ่านไปท่องเที่ยวตามประเทศเหล่านี้ ลองหาโอกาสเที่ยวเมืองเล็กๆตามชนบทบ้าง สำหรับเราเสน่ห์ของเมืองเล็กๆเหล่านี้ คือ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์และสวยงาม หรือบางที่เป็นเมืองศิลปะ เดินไปมุมไหนก็สวยไปหมด เมืองที่สามารถใช้เท้าของเราเดินสำรวจได้ทั่วเมือง ผู้คนไม่พลุกพล่าน ถึงแม้บางเมืองเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง แต่ถ้าหากได้ลองพักตามเมืองเหล่านี้อย่างน้อยสักคืนจะพบว่าช่วงที่นักท่องเที่ยวกลับไปหมดแล้ว บรรยากาศของเมืองช่างสงบ สบาย และสวยงาม รู้สึกเวลาเดินช้า เหมาะกับการมาพักผ่อน ชาร์ตพลังให้ตัวเองจริงๆ       
    1. Tekapo, New Zealand


เมืองเล็กๆในเขต Mekenzie Country ใจกลางเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ มีทะเลสาบ Tekapo ที่สวยงามด้วยสีเทอร์ควอยส์อันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นสถานที่ดูดาวทางซีกโลกใต้ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


   2. Ile d'Orleans, Canada


เกาะเล็กๆใกล้ Quebec City ในแคนาดา พื้นที่แห่งแรกๆที่ถูกฝรั่งเศสครอบครองและยังคงมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาถึงทุกวันนี้ เกาะแสนชิลแห่งนี้นอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังมีฟาร์ม ร้านอาหาร ร้านขนม พิพิธภัณฑ์และแกลอรี่ท้องถิ่นเล็กๆ กุ๊กกิ๊กน่ารักให้แวะเยี่ยมชม

3. Kamakura, Japan



เมืองเล็กๆริมทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว แต่มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ของญี่ปุ่น ทั้งเมืองเต็มไปด้วยวัดวาอารามให้แวะไหว้พระทำบุญ อิ่มบุญแล้วยังสบายอารมณ์จากบรรยากาศเมืองริมทะเลแสนชิลอีกด้วย 

4. Ranong, Thailand




จังหวัดที่ฝนตกมากที่สุดของเมืองไทยจนได้ฉายาว่า เมืองฝน 8 แดด 4 ระนองเป็นเมืองเล็กๆทางภาคใต้ที่เงียบสงบ มีธรรมชาติสวยงามและครบเครื่อง ทั้งภูเขาเขียวๆ น้ำแร่ธรรมชาติ ทะเลสีสวย และเกาะที่น้ำใส  

5. Inle Lake, Myanmar



ทะเลสาบขนาดใหญ่ในรัฐฉานของพม่า เป็นสถานที่ซึ่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ผสมผสานกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างสวยงามและลงตัว แนะนำให้ล่องเรือชมทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยหุบเขา ดูวิถีชีวิตคนท้องถิ่นอย่างการพายเรือจับปลาด้วยเท้า การทอผ้าจากใยบัว ปลูกผักบนน้ำ แวะไหว้พระขอพรที่วัดกลางน้ำ และปิดท้ายด้วยการพักผ่อนแสนสบายในรีสอร์ตกลางน้ำ


6. Oxford, UK

ภาพจาก www.travel.nytimes.com

เมืองมหาวิทยาลัยอันเก่าและเก๋าของโลก เป็นเมืองเล็กๆที่ได้บรรยากาศเมืองเก่าแบบอังกฤษ ตื่นตากับสถาปัตกรรมที่สวยงามของ College ชั้นนำของโลกหลายสิบแห่ง หรือออกนอกเมืองไปหน่อยจะพบกับบรรยากาศแสนสบายแบบชนบทอังกฤษ

7. Sintra, Portugal



เมืองเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงลิสบอน เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า Fairy Tale ของโปรตุเกส เนื่องจากมีทั้งปราสาท พระราชวังที่สวยงามแปลกตา และวิลล่าหรูหราเก่าแก่หลายแห่ง ตัวเมืองมีขนาดเล็กแต่ร่มรื่นย์ มีโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ อีกทั้งบ้านเรือนร้านค้าที่ตกแต่งแบบโปรตุเกส ให้เดินชมเมืองแบบเพลินๆ

8. Cordoba, Spain


เมืองขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ทางภาคใต้ของสเปน เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรแขกมัวร์ในดินแดนยุโรป ย่าน Old Town เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างย้อนยุคที่สวยงามและตื่นตา ทั้ง Mezquita สุเหร่าโบราณของอิสลามที่ปัจจุบันกลายเป็นโบสถ์ชาวคริสต์ พระราชวัง ป้อมปราการโบราณ สะพานเก่าแก่ริมแม่น้ำสุดชิล และย่านชาวยิวที่บ้านเรือนทาด้วยสีขาวและตกแต่งหน้าบ้านด้วยดอกไม้สีสดใส


9. Florence, Italy


เมืองขนาดไม่ใหญ่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการของยุโรป (Renaissance) ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของอิตาลี ทั้งเมืองเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เพราะเต็มไปด้วยโบสถ์ วิหาร พระราชวัง รูปปั้น สะพานเก่า และพิพิธภัณฑ์สุดเจ๋ง ซึ่งมีสถาปัตยกรรมและศิลปะที่สวยงามสมัย Renaissance กระจายอยู่เต็มเมือง 

10. Santorini, Greece



เกาะกลางทะเลอีเจียนของกรีซ ซึ่งเกิดจากภูเขาไฟระเบิด ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศโรแมนติกและพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุด บ้านเรือนของที่นี่ปลูกบริเวณหน้าผาและทาด้วยสีขาวและฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ เกาะคึกคักมากในช่วงหน้าร้อน มีชายหาดหลากสีให้เลือกอาบแดดเล่นน้ำอย่างสำราญใจ

11. Nan, Thailand


จังหวัดเล็กๆในหุบเขาทางภาคเหนือของไทย มีเส้นทางขับรถที่สวยสุดๆและเป็นจังหวัดซึ่งเต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งวัดวาอาราม จิตรกรรมฝาผนัง พิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ หรือจะขึ้นภูไปนอนดูดาว ชมพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่นี่มีอุทยานแห่งชาติและภูที่มีธรรมชาติสวยงามและสมบูรณ์มากมาย

12. Yufuin, Japan


เมืองออนเซนที่ล้อมรอบด้วยเขาบนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น เป็นเมืองเล็กๆน่ารักที่เงียบสงบ ได้บรรยากาศแบบชนบทญี่ปุ่นที่ฟ้าใส ทุ่งหญ้าเขียว แนะนำให้เช่าจักรยานขี่ชมเมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Yufu แห่งนี้ แวะย่านถนนคนเดินซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของและร้านอาหารกุ๊กกิ๊กน่ารัก เดินเล่นริมทะเลสาบ Kinrinko และปิดท้ายด้วยการแช่ออนเซน เป็นการพักผ่อนที่แสนสบายจริงๆ