10+1 ประสบการณ์อันน่าจดจำที่เกาะใต้ นิวซีแลนด์ (Gorgeous Part)

เส้นทางท่องเที่ยวเกาะใต้ นิวซีแลนด์ ของคณะเราอันเป็นที่มาของบทความนี้ ขอสรุปเป็นเมืองที่เราแวะพักในแต่ละวัน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ จะอยู่ไม่ไกล 
วันแรกออกเดินทางจาก Christchurch  
จุด B เมือง Franz Josef   
จุด C เมือง Wanaka 
จุด D เมือง Te Anau 
จุด E เมือง Queenstown
จุด F Lake Tekapo 
จุด G เมือง Dunedin 
จุด H เมือง Oamaru
จุด I สิ้นสุดที่ Christchurch 
โดยเรื่องราวของ Blog ในเดือนนี้ เป็นตอนที่เราตั้งชื่อว่า "Gorgeous Part" นำเสนอ 4 ประสบการณ์แบบสบายๆ สวยๆ วิ้งๆ ไม่ผจญภัยอะดรีนาลีนท่วมแบบตอนที่แล้ว (Adventurous Part)  แต่รับประกันความชิล สนุก งดงาม อร่อย และยากจะลืม โดยตอนสุดท้ายของบทนี้เราเริ่มต้นที่เมือง Queenstown ขับรถขึ้นไปทางตอนกลางของเกาะใต้ จากนั้นเรียบชายฝั่งทางตะวันออกไปจบที่เมือง Christchurch 
สำหรับใครพลาดตอนแรก อ่าน Adventurous Part ได้ที่ 
http://www.poythetraveller.blogspot.com/2014_02_01_archive.html

7. Eat Salmon at Farm Experience

เช้าวันใหม่เราออกจาก Queenstown ผ่านเมือง Cromwell เข้าสู่ Highway 8 หรือ Lindis Pass เส้นทางระหว่างเขต Mekenzie Country และ Central Otago บริเวณตอนกลางของเกาะใต้ ภูมิประเทศแถบนี้เป็นทุ่งราบกว้าง ฟ้าใส แดดแรง ดูแห้งแล้งแต่ก็สวยงามแปลกตา ระหว่างทางมีทะเลสาบไม่ทราบชื่อซึ่งน้ำใสราวกับกระจก คณะเรามาถึง Mount Cook Alpine Salmon Farm ฟาร์มปลาแซลมอนที่สูงที่สุดในโลก จัดการฟาร์มในระบบปิด ใช้น้ำจากฝนและธารน้ำแข็ง เราแวะกินอาหารเที่ยงกันอย่างไม่ตั้งใจ โดย Salmon Sashimi และ Salmon สเต็กที่นี่สดและรสชาติดีมาก เพื่อนบางคนในคณะบอกว่าเป็นประสบการณ์กินแซลมอนที่อร่อยที่สุดในชีวิตแล้ว (คนแนะนำอย่างเราปลื้มใจจริงๆ) สำหรับโปรแกรมหลักของเราวันนี้ คือ ไปชมความงามของทะเลสาบ Tekapo ซึ่งระหว่างทางผ่านทะเลสาบ Pukaki ที่เป็นจุดชมวิว Mount Cook ยอดเขาสูงที่สุดในนิวซีแลนด์ แต่เนื่องจากเวลาอันจำกัดของเราทำให้ต้องตัดโปรแกมที่ Mount Cook ไปอย่างน่าเสียดาย แต่หากใครสนใจ...อุทยานแห่งชาติ Aoraki Mount Cook National Park มีกิจกรรมสนุกๆให้ทำมากมายอย่างการสำรวจ Tasman Glacier ธารน้ำแข็งใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์, ทัวร์เรือคายัคในทะเลสาบ Taman ชม Glacier อย่างใกล้ชิด หรือจะเดินชมวิวรอบหมู่บ้าน Mount Cook ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 2 ชั่วโมง ส่วนทะเลสาบ Tekapo พระเอกของวันนี้ เป็นทะเลสาบที่โด่งดังที่สุดของนิวซีแลนด์ เพราะขึ้นชื่อเรื่องสีฟ้าเทอร์ควอยส์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ความลับของสีนี้ เกิดจากการหักเหของแสงแดดกับน้ำในทะเสลสาบที่มีสารละลายและแร่ธาตุจากธารน้ำแข็ง ผนวกกับดิน-หินที่ถูกกัดกร่อนจนเป็นฝุ่นที่ก้นทะเลสาบ มองไกลๆเกิดเป็นสีฟ้าแปลกตา แต่เมื่อเดินไปใกล้ๆน้ำกลับเป็นสีขาวขุ่น ส่วนบริเวณด้านหน้าของทะเลสาบมีโบสถ์ Good Shepherd Church โบสถ์หินเก่าแก่ ขนาดน่ารัก เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ Lake Tekapo 

8. Star Party Experience

จากทะเลสาบ Tekapo เราขับรถขึ้นเขาไปที่ Mount John Observatory เพื่อชมวิวทะเลสาบแบบ 360 องศา นอกจากเป็นจุดชมวิวของทะเลสาบ 2 สี คือ Tekapo และ Putaki แล้ว ยังเป็นสถานที่สำรวจท้องฟ้าและดวงดาวอีกด้วย บริเวณทะเลสาบ Tekapo ตั้งอยู่ในภูมิภาค Mekenzie Country ตอนกลางของเกาะใต้ เป็นสถานที่ซึ่งมีฟ้าโปร่ง ท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงไฟจากเมืองรบกวน จึงเหมาะสำหรับกิจกรรมดูดาวเป็นอย่างยิ่ง ในปี 2012 International Dark-Sky Association ของสหรัฐอเมริกา ได้ยกย่องให้พื้นที่บริเวณนี้มีท้องฟ้ามืดที่สุดระดับ Gold level ของโลกทีเดียว ดังนั้นในตอนเย็นชาวคณะเราได้ไปร่วม Star Party ซึ่งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้จัดรถบัสเล็กให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปดูดาวบนเขา เราไปถึงบริเวณลานดูดาวกับตอนโพล้เพล้ มีทีนั่งดูดาวให้บริการบนพื้นหญ้าหลายสิบตัว กล้องดูดาวหลายชนิด หลากขนาด มีอาสาสมัครคอยอธิบายให้ความรู้เรื่องดวงดาว และมีอาหารเล็กๆน้อยๆขาย ท้องฟ้าที่นี่เหมาะกับการดูดาวสมคำร่ำลือจริงๆ เพราะทั้งโปร่ง ใส ไม่มีเมฆและแสงไฟรบกวน ตอนพระอาทิตย์ตกจึงมืดได้ใจมาก พวกเราได้มีโอกาสเห็นดวงดาวต่างๆอย่างใกล้ชิดผ่านกล้องดูดาวมืออาชีพ เช่น ดาวพุธ ดาวเสาร์และวงแหวนของเค้า กลุ่มดาวชื่อแปลกๆที่ดูผ่านกล้องขยายขนาดยักษ์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังส่องดูเพชรอย่างไรอย่างนั้น หลุมในดวงจันทร์ ฯลฯ ความสวยงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนในซีกโลกใต้แห่งนี้ เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านดวงที่แข่งกันระยิบระยับ เป็นประสบการณ์ที่สวยงามเกินบรรยาย สนุก และสุดชิลที่จะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนาน

9. Wildlife Watching Experience

จาก Lake Tekapo เราใช้เส้นทาง Highway 1 เป็นถนนขนานกับมหาสมุทรแปซิฟิกทางฝั่งตะวันออกของเกาะใต้ มุ่งหน้าสู่เมือง Dunedin เมืองใหญ่อันดับ 2 ของที่นี่และเป็นเมืองเก่าแก่สมัยชาวสก๊อตแลนด์มาตั้งรกราก จึงมีกลิ่นอายความเป็นสก๊อตอยู่มากพอควร ทั้งชื่อเมือง ชื่อถนน และอาคารเก่าแก่แบบยุโรปอย่างสถานนีรถไฟ Dunedin, โบสถ์ St. Paul และมหาวิทยาลัย Otago (มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ) ใกล้ๆเมืองฝั่งตะวันออกมี Otago Peninsula เป็นคาบสมุทรที่นิวซีแลนด์ยกย่องให้เป็น Wildlife Capital of New Zealand เนื่องจากเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ในเขตหนาวชนิดต่างๆ ที่หนีหนาวมาอาศัยอยู่ที่นี่ อีกทั้งคาบสมุทรแห่งนี้ยังถูกจัดให้เป็นสถานที่โรแมนติกแห่งหนึ่งของนิวซีแลนด์ มีปราสาท Larnach ปราสาทเก่าแก่แบบยุโรปโบราณแห่งเดียวในนิวซีแลนด์
โปรแกรมคณะเราวันนี้ คือ การสำรวจธรรมชาติและสัตว์ป่าเขตซีกโลกใต้กันที่คาบสมุทรนี้ เริ่มจากนั่งรถชมวิวรอบเกาะซึ่งภูมิประเทศเป็นเนินเขา หน้าผา ป่าชายเลน อ่าวและทะเล เราแวะที่ Royal Albatross Centre ศูนย์นกอัลบาทอส มีประวัติความเป็นมาและจัดแสดงนกอัลบาทอสสต๊าฟ นกทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งมีโอกาสเห็นตัวเป็นๆ บินไป บินมา บริเวณประภาคารที่หน้าผาใกล้ๆกับศูนย์ฯ ส่วนโขดหินด้านล่างเจอแมวน้ำนอนขี้เกียจอยู่หลายตัว สีของเค้ากลืนไปกับโขดหิน ต้องใช้ทั้งกล้องส่องทางไกลและความพยายามเต็มที่กว่าจะเห็น จากนั้นไปต่อกันที่ Sandfly Bay อ่าวด้านตะวันออก เป็นบริเวณที่เราพบสิงโตทะเลนอนพึ่งพุงอยู่บนหาดทราย นกทะเลหลายชนิด และแมวน้ำหลายตัวตามโขดหิน พบรอยเท้าเพนกวินตาเหลือง (Yellow Eyed Penguin) ซึ่งเป็นเพนกวินขนาดเล็กที่พบได้บริเวณนี้เท่านั้น อีกทั้งเป็นเพนกวินกลัวคน อยากเห็นจึงต้องแอบซุ่มดูในเพิงพักที่สร้างไว้บนเนินเขา รอซักพักใหญ่ๆเราก็เห็นเพนกวินตัวเล็กๆ 2 ตัว ออกมาเดินอวดโฉมระหว่างแนวต้นหญ้า เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง หญ้าบังบ้าง ธรรมชาติสุดๆ แม้ว่าที่นี่เราจะเห็นเพนกวินและสิงโตทะเลไม่เยอะอย่างที่หวัง แต่เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมากเพราะสัตว์เหล่านี้เค้าอยู่กันตามธรรมชาติจริงๆ และแต่ละตัวช่างดูดี๊ด๊า มีความสุข สบายใจกันทุกตัว 

10. Enjoy Eating Experience

นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีจำนวนแกะมากกว่าจำนวนคน ประชากรทั้งประเทศมีเพียง 4.4 ล้านคน ภูมิประเทศเป็นเกาะอยู่กลางทะเลแปซิฟิกตอนใต้ ห่างไกลจากประเทศอื่น มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์สวยงาม ทั้งทะเล ทะเลสาบ ป่าเขา และทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ มีมลพิษน้อยมากจากการเป็นประเทศเกษตรกรรม 
การมาเที่ยวนิวซีแลนด์และได้ลิ้มลองอาหาร Made in New Zealand ทั้งนมและผลิตภัณฑ์จากนม อย่างไอศครีม ช็อคโกแลต ที่หวาน มัน เข้มข้น ส่วนเนื้อวัว เนื้อแกะนั้นมีคุณภาพดีสุดๆ ทั้งหอม หวาน หนา นุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว ส่วนอาหารทะเลอย่างหอยแมลงภู่ ปลา และกุ้ง ก็ตัวใหญ่ได้ใจ เนื้อแน่น หวาน ที่สำคัญคือสดมากๆ สำหรับไวน์ท้องถิ่น รสชาติดี หอมละมุน และราคาไม่แพง ถือเป็นความสุขที่หาได้ง่ายๆตลอดการเดินทางของพวกเราเลยทีเดียว 




+1 Travel with Wonderful Friends Experience 

ประสบการณ์ Plus one สุดท้าย ซึ่งทำให้ทริปนิวซีแลนด์ของเรามีแต่ความทรงจำที่สนุก สวยงาม และยากจะลืม คือ การมีเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจ...ไปไหนไปกัน กินไหนกินกัน เล่นอะไรเล่นด้วยกัน...ขอบคุณฮับบี้และเพื่อนๆทุกคนที่ไปเที่ยวทริปนี้ด้วยกันนะ อยากบอกว่า "มันสนุกมาก ขำมาก บ้ามาก สวยมาก อร่อยมาก หนาวมาก ตื่นเต้นมาก ช็อคมาก ฝันเป็นจริงมาก ชิลมาก มีความสุขมาก รักมาก"