Friday, February 14, 2014

10 ประสบการณ์อันน่าจดจำที่เกาะใต้ นิวซีแลนด์ (Adventurous Part)

เส้นทางท่องเที่ยวเกาะใต้ นิวซีแลนด์ ของคณะเราอันเป็นที่มาของบทความนี้ ขอสรุปเป็นเมืองที่เราแวะพักในแต่ละวัน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ จะอยู่ไม่ไกล 
วันแรกออกเดินทางจาก Christchurch  
จุด B เมือง Franz Josef   
จุด C เมือง Wanaka 
จุด D เมือง Te Anau 
จุด E เมือง Queenstown
จุด F Lake Tekapo 
จุด G เมือง Dunedin 
จุด H เมือง Oamaru
จุด I สิ้นสุดที่ Christchurch 
โดยเรื่องราวของ Blog ในเดือนนี้ เป็นตอนที่เราตั้งชื่อว่า "Adventurous Part" นำเสนอ 6 ประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมผจญภัยที่แสนสนุกและยากจะลืม ตั้งแต่เมือง Christchurch จนถึง Queenstown ที่เราอยากแนะนำให้ผู้อ่านเก็บไว้เป็นไอเดีย เผื่อมีโอกาสไปเยือนดินแดน Middle Earth ของ Lord of the Rings แห่งนี้  

1. ประสบการณ์ขับรถเที่ยวรอบเกาะ  (Self-drive Experience) 



ประเทศที่มีธรรมชาติบริสุทธิ์สวยงาม ทั้งป่าฝน ชายทะเล ภูเขาไฟ ภูเขาหิมะ ฟยอร์ด ทะเลสาบ พื้นที่ราบแห้งแล้ง เมืองในหุบเขาแสนสวย หรือเมืองท่าติดทะเลแสนชิล ทั้งหมดนี้สามารถพบเจอได้ที่นี่...นิวซีแลนด์ การเช่ารถขับเป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับการดื่มด่ำธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลายของนิวซีแลนด์ ถนนที่นี่ขับง่าย สภาพถนนดี รถน้อย พวงมาลัยขวาเหมือนขับรถเมืองไทย และราคาค่าเช่าก็ไม่แพง 







2. ประสบการณ์สำรวจธารน้ำแข็ง (Glacier Experience) 


 เริ่มต้นการเที่ยวเกาะใต้ของเราที่ชายฝั่งตะวันตก ซึ่งภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าฝนดิบชื้น จุดหมายสู่เมือง Franz Josef และเมือง Fox ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 20 กม. ทั้งสองเมืองเป็นเมืองเล็กๆอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Westland มีแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังคือ Franz Josef Glacier และ Fox Glacier ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ไหลมาจากภูเขาผ่านเขตป่าฝน เป็นธารน้ำแข็งที่พบเห็นได้ในอุณหภูมิปกติและเข้าถึงได้ง่ายที่สุดของโลก มีความยาวประมาณ 12 กม.แต่น่าเสียดายที่ภาวะโลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งเหล่านี้เหลือน้อยลงทุกปี  
กิจกรรมสำรวจธารน้ำแข็งที่นี่มีหลายรูปแบบ ได้แก่ การเดินสำรวจธารน้ำแข็ง หรือ Glacier Hiking ซึ่งโปรแกมส่วนใหญ่มีทั้งแบบครึ่งวัน และเต็มวัน เป็นกิจกรรมแนวผจญภัยที่ได้สัมผัสกับธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด แต่เนื่องจากเวลาจำกัด ทำให้เราเลือกกิจกรรมเช่าเฮลิคอปเตอร์ เพื่อชมธารน้ำแข็ง และทิวทัศน์โดยรอบ รวมทั้งได้ขึ้นไปสัมผัสหิมะที่เทือกเขา Tasman กิจกรรมนี้กินเวลาประมาณ 20-40 นาทีขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก เป็นประสบการณ์ที่สนุก สวยงามและคุ้มค่า หากใครสนใจกิจกรรมสำรวจธารน้ำแข็งข้างต้น สามารถติดต่อบริษัททัวร์ในเมือง Franz Josef หรือ Fox เปรียบเทียบโปรแกมและราคาได้ตามสบาย อย่างไรก็ตามหากใครไม่ถนัดปีนป่ายหรือกลัวความสูง ยังมีเส้นทางธรรมชาติ เป็นเส้นทางเดินผ่านป่าฝนไปจนถึงบริเวณปลายธารน้ำแข็ง โดยระยะเวลาไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งสำหรับ Franz Josef Glacier และ 1 ชั่วโมงสำหรับ Fox Glacier ถือเป็นกิจกรรมที่สบายๆ และประหยัดเงินด้วย

3. ประสบการณ์กระโดดบันจี้ (Bungy Jumping Experience)



เช้าวันที่ 3 ในเกาะใต้เราเริ่มต้นชื่นชมความงามของธรรมชาติกันที่ทะเลสาบ Wanaka ที่น้ำใสเหมือนกระจก จากนั้นขับรถไปเที่ยวกันที่เมือง Arrowtown เมืองเล็กๆ น่ารักทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอดีตเป็นเมืองเหมืองทองเก่า เมืองนี้เหมาะกับการแวะถ่ายรูป และเดินชิลๆชมเมือง จากนั้นไปต่อกันที่กิจกรรมท้าทายความกล้าและกระตุ้นอะดรีนาลีนที่โด่งดังที่สุดของนิวซีแลนด์ นั่นคือ การกระโดดบันจี (Bungy Jumping) ที่สะพาน Kawarau ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Arrowtown ที่นี่นอกจากจะเป็น Bungy Jump เจ้าแรกของโลก ซึ่งริเริ่มโดยชาวกีวี่ ชื่อ AJ Hackett แล้ว วิวทิวทัศน์โดยรอบยังสวยงามมาก การกระโดดบันจีที่นี่มีให้เลือกหลายรูปแบบ จะโดดเดี่ยว โดดคู่ หรือโดดเป็นหมู่คณะ จะเอาหัวจุ่มน้ำหรือไม่ โดยกระโดดที่ความสูง 43 เมตร และหลังการโดดเรียบร้อยแล้วยังได้ Certificate และเสื้อยึดรับรองความกล้าหาญเป็นที่ระลึกอีกด้วย สำหรับกิจกรรม Bungy Jump ของนิวซีแลนด์นอกจากที่สะพาน Kawarau แล้ว ยังมีตามเมืองใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมผจญภัยอย่าง Taupo และ Queenstown 



4. ประสบการณ์พบเจ้าบ้าน (Bump into the Sheep Experience on the way to Milford Sound)


จากเมือง Te Anau เราออกกันแต่เช้ามืดใช้ถนนเส้น Highway 94 หรือเรียกอีกชื่อว่า The Milford Road มุ่งหน้าสู่ Milford Sound วิวทิวทัศน์และธรรมชาติข้างทางสวยงาม แปลกตา และสงบมาก ระหว่างทางเราได้พบกับฝูงแกะตัวเป็นๆ ที่ตอนขับรถมาไกลๆนึกว่าข้างหน้ามีน้ำท่วมทางไปต่อไม่ได้ แต่ที่ไหนได้เป็นกองทัพแกะเจ้าถิ่นเกือบร้อยตัว ซึ่งเจ้าของกำลังต้อนกลับฟาร์ม ถึงแม้จะพึ่งโดนกล้อนขนมาแต่ก็น่ารักสุดๆ เป็นประสบการณ์ที่เราไม่คาดหวังจะเจอแต่กลับเป็นเหตุการณ์ประทับใจของวันนี้
สำหรับ Milford Sound สถานที่ซึ่งชาวกีวี่ภาคภูมิใจนั้น ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุด Fiordland National Park ทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ โดยบริเวณดังกล่าวเกิดจากการกัดกร่อนของธารน้ำแข็งในอดีตมายาวนาน ภูมิประเทศเป็นภูเขาและหน้าผาเว้าแหว่ง เรียกว่า Fiord ส่วนบริเวณที่ถูกแทนที่ด้วยพื้นน้ำ เรียกว่า Sound การล่องเรือชม Milford Sound กินเวลาประมาณครึ่งวัน โดยเริ่มบริเวณแนวฟยอร์ดทางใต้เลาะขึ้นไปด้านเหนือจนถึง Dale Point คือบริเวณทางออกสู่ทะเล Tasman เรือจะวกกลับและล่องเข้าท่า บรรยากาศระหว่างทางเป็นการชมฟยอร์ด ภูเขา หน้าผา น้ำตก หากโชคดีอาจพบเจอแมวน้ำ เพนกวิน และปลาโลมา จนมาสิ้นสุดที่ท่าเรือใกล้ๆกับยอดเขาไมเทอร์ (Mitre Peak) ยอดเขาที่โผล่พ้นมหาสมุทรที่สูงที่สุดในโลก (1,692 เมตร) และเป็นสัญลักษณ์ของ Milford Sound
  
5. ประสบการณ์ขับรถซิ่ง (Lude-drive Experience)


โปรแกรมของเราวันนี้ คือการทำกิจกรรมกระตุ้นอะดรีลนาลีนกันให้เต็มรูปแบบ คุ้มกับที่มาถึงเมืองหลวงแห่งการผจญภัยของชาวกีวี่ ที่ Queenstown ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจทางใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นเมืองไม่เล็ก ไม่ใหญ่ แต่สวยงามเพราะมีเทือกเขา The Remarkable ล้อมรอบ มีทะเลสาบ Wakatipu อยู่กลางเมือง  
เราเริ่มต้นช่วงเช้าด้วยการนั่งเรือ  Shotover Jet เป็นเรือเครื่องเล่นชื่อดังของที่นี่ คนขับจะขับเรือด้วยความเร็วสูงไปตามแม่น้ำ Shotover ผ่านหุบเขา หน้าผา ซึ่งมีวิวสวยงาม และจะสบินเรือ 360 องศากลับอย่างรวดเร็วจนลูกเรือตั้งตัวกันไม่ทัน เป็นกิจกรรมที่สนุก หวาดเสียว เปียกนิดหน่อย แต่ปลอดภัย จากนั้นเราไปต่อกันที่ Skyline Queenstown ซึ่งอยู่บนยอดเขา Bob’s Peak ต้องนั่งกระเช้าหรือ Gondola ขึ้นไป ที่นี่นอกจากเป็นจุดชมวิวเมืองแบบ 360 องศาที่สวยงามมากแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ทำเพียบทั้ง Bungy Jump ที่ระดับความสูง 400 เมตร ขับรถ Lude และการเล่นร่มร่อน Paragliding รวมทั้งมีภัตราคารและร้านขายของที่ระลึกด้วย กิจกรรมท้าทายความตื่นเต้นที่ 2 ของวัน เราเลือกการเล่นรถ Lude ซึ่งเป็นรถ 3 ล้อท้องแบนติดพื้น บังคับให้วิ่งและหยุดที่พวงมาลัย สนาม Lude มีลักษณะวกวนและเป็นสโลบลาดเอียง มีให้เลือกทั้งสนามสำหรับมือใหม่ และสนาม Advance ที่มีความโค้งและลาดชันมากกว่า แนะนำให้ลองขับที่สนามมือใหม่กันก่อน หากติดใจอย่างคณะเราให้ย้ายไปเล่นสนาม Advance ที่มันส์กว่า และวิวสวยสุดๆ ซื้อตั๋วเหมาเล่นได้ 5 รอบ แถมอีก 1 รอบ คุ้มค่ามากมาย 

6. ประสบการณ์โบยบินดุจนก (Paragliding Experience)


ต้องขอบคุณการเล่นรถ Lude ไป 6 รอบ ที่สร้างความสนุก ตื่นเต้น อะดรีนาลีนหลั่งกันจนคึกคัก พวกเราจึงตัดสินใจเล่นร่มร่อน หรือ Paragliding กันต่อที่ Skyline นี่แหละ เป็นกิจกรรมผจญภัยอย่างสุดท้ายที่ Queestown
จากสนาม Lude เดินขึ้นเขาต่อไปอีกหน่อยจนถึงลานกว้างสำหรับกระโดดร่ม โดย Buddy หนุ่มชาวกีวี่ซึ่งเป็นคนบังคับร่มจะจัดเตรียมอุปกรณ์ ตรวจความเรียบร้อยของร่ม และติดอุปกรณ์โดดร่มให้เรา จากนั้นเราจะเดินไปบริเวณหน้าผาซึ่งเป็นจุดโดดร่ม มีเราเดินนำหน้า มี Buddy และร่มขนาดยักษ์อยู่ข้างหลัง เดินกันไปจนตกเขา นั่นคือ เดินจนเท้าไม่เหยียบพื้นดินแล้ว เป็นการเดินบนอากาศอยู่หลายก้าว ร่มด้านหลังจะกาง จากนั้น Buddy จะเป็นผู้บังคับร่มให้ร่อนไปตามลม ชมวิว Queenstown แสนสวยด้านล่างกันแบบ Bird eye view ร่มจะร่อนลงที่พื้นดินด้านล่างของ Skyline เป็นอันจบกิจกรรม ประสบการณ์การเล่น Paragliding นั้นถึงแม้จะหวาดเสียวอยู่บ้าง แต่เป็นความประทับใจที่ยากจะลืม ความรู้สึกเหมือนเราเป็นนกที่กำลังบิน มีเพียงตัวเรา ลม และท้องฟ้าเท่านั้น อิสระ และสวยงาม


สำหรับ 4 ประสบการณ์ที่เหลือ ชื่อว่าตอน Gorgeous Part ตามไปอ่านกันได้ที่ 
http://www.poythetraveller.blogspot.com/2014_08_01_archive.html