Tuesday, December 30, 2014

Good Bye 2014 with poythetraveller 12 Special Moments

ปีม้า 2557 กำลังจะจากเราไปอีกไม่กี่วัน December Issue ของบล็อก poythetraveller จึงขอนำภาพประทับใจในทริปท่องเที่ยวตลอดปีที่ผ่านมา มาเสนอ บางภาพคนดูเห็นแล้วอาจรู้สึกไม่ได้สวยอะไร แต่สำหรับเราข้างหลังภาพถ่ายเหล่านี้ มันคือความทรงจำที่มีความสุข ความรู้สึกดีๆ ความเศร้าจนต้องเสียน้ำตา ความสวยงามจนตะลึง ความสนุกที่หยุดยิ้มไม่ได้ หรือการทำความฝันให้เป็นความจริง ไปดูกันค่ะว่า 12 ภาพแห่งความทรงจำของเราในปี 2557 มีอะไรบ้าง...

 

1. ชื่อภาพ " We love Sattahip " 
สถานที่ = หาดเตยงาม สัตหีบ จ.ชลบุรี ประเทศไทย เมษายน 2557
ข้างหลังภาพ = ครอบครัวเราพาเพื่อนรัก 4 ขา คือ นายทีโบน สุนัขพันธุ์บีเกิล และนายแซ็ค สุนัขพันธ์ุลาบาดอร์ ไปเที่ยวทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิตของพวกเค้า ประสบการณ์พาเจ้าสองตัวขึ้นรถ ลงรถ วิ่งเล่นริมหาด และเล่นน้ำทะเลครั้งแรกนั้น มันช่างวุ่นวาย เลอะเทอะ และสนุกดีจริงๆ บอกได้เลยว่าเจ้าสองตัวมีความสุขมากๆ 


2. ชื่อภาพ " My Sakura" 
สถานที่ = สวน Ohori เมือง Fukuoka ประเทศญี่ปุ่น เมษายน 2557
ข้างหลังภาพ = ญี่ปุ่นเป็นประเทศสุดที่รักของเรา ไปแล้วไปอีกได้ไม่รู้เบื่อ สิริรวม ณ ปัจจุบันก็ 7 ครั้งเข้าไปแล้ว แต่เชื่อหรือไม่...เราไม่เคยได้สัมผัสกับเทศกาลยอดฮิตชมดอกซากุระบานเลย เอาเป็นว่าต้นซากุระเป็นไงยังไม่เคยเห็นเลย ทริปคิวชูช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เราทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าคงอดเห็น เพราะ ซากุระที่เกาะคิวชู เค้าบานกันตั้งแต่ปลายเดือนมีนา ช่วงที่เราไปคงร่วงกันหมดแล้ว แต่เอาเหอะ ไม่ลองก็ไม่รู้ ลงเครื่อง เข้าโรงแรมเก็บกระเป๋าเสร็จรีบตรงไปสวน Ohori สวนสาธารณะใหญ่ประจำเมือง Fukuoka ที่เป็นสถานที่ชมซากุระบานยอดฮิต เดินเกือบทั่วสวน แล้วเราก็ได้เจอต้นซากุระหนึ่งเดียวของสวนนี้ ที่ยังคงบานอยู่เต็มต้น ความรู้สึกของเรา คือ ดีใจมาก ปลื้มมาก ถึงจะต้นเดียวก็เหอะ เธอสวยและอ่อนหวานมากๆ อยากบอกซากุระต้นนี้ว่า...ขอบคุณนะที่รอเรา   


3. ชื่อภาพ " I want to join your team, Luffy " 
สถานที่ = สวนสนุก Huis Ten Bosch เมือง Nagasaki  ประเทศญี่ปุ่น เมษายน 2557
ข้างหลังภาพ = รู้จักการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง One Piece มั๊ย? ใช่แล้วเราเป็นสาวกการ์ตูนเรื่องนี้เต็มๆ มันเป็นเรื่องราวการผจญภัยของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ตามหาสมบัติอันเป็นตำนานที่เรียกว่า One Piece มีกัปตันเรือชื่ีอ Monkey D. Luffy ที่ใฝ่ฝันจะเป็นราชาโจรสลัด เป็นการ์ตูนที่สนุกมากเลยนะ ทำเราเสียน้ำตาหลายตอนมาก เอาหล่ะที่นี้ ที่สวนสนุก Huis Ten Bosch ซึ่งอยู่นอกเมือง Nagasaki เค้ามีเรือ Thousand Sunny ซึ่งเป็นเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง แถมบนเรือมีโมเดลสมาชิกทั้ง 9 ขนาดเท่าตัวจริงคอยต้อนรับอยู่ และที่เจ๋งมากๆคือเรือมันแล่นได้จริงๆ โดยสวนสนุกเค้าเปิดล่องเรือในอ่าว Nagasaki ประมาณ 10 นาที บอกเลยว่าสาวก One Piece อย่างเราเจออย่างงี้มันฝันเป็นจริงและฟินมากๆ ไม่สามารถหยุดยิ้มได้เลย   


4. ชื่อภาพ " I feel your pain, Hiroshima " 
สถานที่ = สวนสันติภาพ เมือง Hiroshima ประเทศญี่ปุ่น เมษายน 2557
ข้างหลังภาพ = จาก Fukuoka เรานั่งชินคังเซนไปเที่ยว Hiroshima เมืองที่มีประวัติศาสตร์อันน่าเศร้า ที่ปัจจุบันกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ทันสมัยและสวยงาม อย่างไรก็ตามที่ Peace Park หรือสวนสันติภาพของเมืองนี้ ยังมี "A Bomb Dome" อาคารแห่งเดียวที่ยังอยู่ เมื่อตอนฮิโรชิมาโดนระเบิดปรมาณูถล่ม ซึ่งเหลือเพียงโครงสร้างให้คนมาเยี่ยมอย่างเราน้ำตาไหลได้ไม่ยาก บริเวณดังกล่าวยังมีอนุสาวรีย์หนูน้อยซาดาโกะ และพิพิธภัณฑ์สันติภาพ (Peace Memorial Museum) ซึ่งจัดแสดงประวัติศาสตร์เหตุการณ์ก่อนและหลังการถูกปรมาณูถล่มของเมือง จนถึงสถานการณ์โลกปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับอาวุธดังกล่าว สำหรับเราเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทำให้เสียน้ำตาและดีมากๆ เพราะการได้เรียนรู้ความเจ็บปวดของชาวฮิโรชิมา ทำให้เรารู้ว่าสงครามเป็นสิ่งที่ไร้สติ ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา และไม่มีประโยชน์กับใคร   


5. ชื่อภาพ " Shrine Island " 
สถานที่ = เกาะ Miyajima ประเทศญี่ปุ่น เมษายน 2557
ข้างหลังภาพ = เกาะ Miyajima เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่นอกเมือง Hiroshima ชื่อเกาะแปลเป็นภาษาไทยว่า เกาะแห่งศาลเจ้า เพราะมีศาลเจ้า Itsukushima Shrine และ Tori ยักษ์ ที่เวลาน้ำขึ้นจะดูเหมือนลอยน้ำเป็นสัญลักษณ์ของเกาะนี้ ที่นี่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสาม Best Views ของญี่ปุ่น และถือเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งเลยทีเดียว พอได้มาสัมผัสที่นี่ก็สวยจริงและศักดิ์สิทธิ์จริงสมคำร่ำลือ บรรยากาศที่นี่โรแมนติก สบายๆ ผสมผสานศิลปะของบรรดาวัดและศาลเจ้าต่างๆกับความงามตามธรรมชาติของทะเล ป่าเขา ได้อย่างลงตัว เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่สวยงาม มีเอกลักษณ์และสงบสำหรับเรา     


6. ชื่อภาพ " Top of Miyajima " 
สถานที่ = ยอดเขา Misen เกาะ Miyajima ประเทศญี่ปุ่น เมษายน 2557
ข้างหลังภาพ = "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" เป็นประโยคที่เหมาะกับภาพนี้มากๆ ภาพนี้ คือ ทะเลใน Seto ที่ถ่ายจากยอดเขา Misen ยอดเขาที่สูงที่สุดบนเกาะ Miyajima การปีนเขาที่นี่เราใช้วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การขึ้นกระเช้า Ropeway ข้ามเขาส่วนหนึ่งมา ต่อด้วยการเดินขึ้นเขาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงจนถึงยอดเขา ถึงจะเป็นทางที่สบายที่สุดแต่คนเมืองอย่างเรากว่าจะถึงยอดเขาเนี่ยก็เล่นเอาเหนื่อยและต้องแวะพักเป็นระยะๆ สู้คุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่เดินขึ้นเขากันสบายๆไม่ได้เลย แต่พอถึงยอดเขาความเหนื่อยก็หายไป เหลือแต่ความภูมิใจในความพยายามของตัวเองที่บากบั่นมาได้เห็นวิวที่สวยงามแบบนี้    


7. ชื่อภาพ " Tokyo heals my soul " 
สถานที่ = ริมน้ำ Tokyo Sky Tree เมือง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น กรกฎาคม 2557
ข้างหลังภาพ = ปีนี้เรามีช่วงเวลาที่เจ็บปวดจากการสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รัก จิตใจห่อเหี่ยว พอดีสามีมีโอกาสไปทำงานที่ญี่ปุ่น ภรรยาชอบเที่ยวอย่างเราจึงถือโอกาสลางานไปพักผ่อนร่างกายและจิตใจกันที่โตเกียว 8 คืน 9 วัน โตเกียวทริปนี้ชิลมากๆ ไม่มีแพลน ตื่นสบายๆ เดินหาของกินน่าตาดีรับประทาน ไปย่านโปรดอย่างชิบุย่า หาของมือสองเจ๋งๆแถวชินจุกุ ไปมิวเซียมที่อุเอโนะ เดินเล่นย่านที่ไม่เคยไปอย่าง Marunoushi กินสเต็กพร้อมชมวิว Tokyo sky tree นั่งเรือล่องแม่น้ำไปเกาะ Odaiba ไปกินภัตราคาร Baratie ของซันจิ ไปอาร์ตมิวเซี่ยมที่ Roppongi ซึ่งดูเสร็จเสียดายตังค์มาก ตามล่ากระเป๋า Bao Bao ที่กว่าจะได้มาก็วันสุดท้าย ใบสุดท้าย...สรุปว่าโตเกียวยังสนุก สวยงาม อร่อย ลืมเวลา และน่ารักเหมือนเดิม   


8. ชื่อภาพ " Sunrise " 
สถานที่ = เกาะพยาม จ.ระนอง ประเทศไทย ธันวาคม 2557
ข้างหลังภาพ = ครั้งแรกในรอบปีที่ตั้งใจตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ริมทะเล เกาะพยาม การค่อยๆเห็นสีต่างๆยามเช้าจนทั้งฟ้าสว่างจ้า นำความสุขสงบมาสู่จิตใจ เป็นความสวยงามที่เรียบง่าย ที่หาได้ไม่ยากจากธรรมชาติ   


9. ชื่อภาพ " Exploring the Island " 
สถานที่ = เกาะพยาม จ.ระนอง ประเทศไทย ธันวาคม 2557
ข้างหลังภาพ = เกาะพยาม จ.ระนอง อาจไม่ใช่เกาะยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ที่นี่ทรายอาจไม่ขาวน้ำอาจไม่ใสเท่าเกาะอื่นๆในฝั่งอันดามัน แต่สำหรับเราเกาะพยามมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร คุ้มค่ากับการมาเยือน เพราะพยามของเรา...สวย ดิบ สงบ และมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ เหมาะกับการมาพักผ่อน เล่นน้ำทะเล นอนอ่านหนังสือ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มลพิษน้อย ไม่มีรถยนต์ 4 ล้อบนเกาะเลย เพราะถนนรอบเกาะเป็นถนนเล็กๆ  การสำรวจเกาะพยามที่เหมาะและสนุกที่สุด คือ การเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่รอบเกาะ ไปหาดยอดฮิตอย่างอ่าวเขาควาย อ่าวใหญ่ และอ่าวกวางปีป ส่วนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นน่าซื้อ คือ มะม่วงหิมพานต์ เพราะปลูกกันทั่วเกาะ 


10. ชื่อภาพ " Sunset " 
สถานที่ = เกาะพยาม จ.ระนอง ประเทศไทย ธันวาคม 2557
ข้างหลังภาพ = สำหรับเราพระอาทิตย์ตกที่อ่าวใหญ่ เกาะพยาม เป็นหนึ่งในสถานที่ที่พระอาทิตย์ตกสวยที่สุดในโลก (อีกที่ คือ เกาะซานโตนินี่ ประเทศกรีซ) พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยจริง ตกจริง เพราะมาเป็นดวงกลมๆ ตกลงทะเลจริงๆ ไม่มีเมฆมาบังให้ต้องมโนแต่อย่างใด สำหรับอ่าวใหญ่เป็นอ่าวยอดฮิต มีที่พักอยู่มากที่สุดบนเกาะพยาม มีชายหาดกว้างใหญ่สมชื่อ น้ำทะเลใสสะอาดแต่คลื่นค่อนข้างแรงน่าเล่นเป็นที่สุด   


11. ชื่อภาพ " Paradise " 
สถานที่ = เกาะตาชัย จ.พังงา ประเทศไทย ธันวาคม 2557
ข้างหลังภาพ = ได้ยินกิตติศัพท์ความงามของเกาะตาชัยมาหลายปีแล้ว มาได้สัมผัสตัวจริงๆ พูดเลยว่านี่มันสวรรค์ชัดๆ หาดทรายขาว ละเอียด นิ่มเหมือนแป้ง น้ำทะเลเขียวสะอาด ใสเหมือนแก้ว เกาะตาชัยสวยงามจนต้องตะลึง และน้ำทะเลที่เขียวใสที่สุด ขนาดสาวไทยอย่างเรายอมลงเล่นน้ำตอนเที่ยงแบบไม่กลัวดำเลยทีเดียว เป็นสถานที่ที่พูดได้เต็มปากเลยว่า "ทะเลไทยสวยงามไม่แพ้ใครในโลก"


12. ชื่อภาพ " Long Drive " 
สถานที่ = บนถนนสาย 4 ระหว่างจ.ระนองถึงจ.สตูล ประเทศไทย ธันวาคม 2557
ข้างหลังภาพ = ทริปสุดท้ายปลายปี เราขับรถลงใต้ เพื่อเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน ไล่มาตั้งแต่จ.ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และมาจบที่สตูล ทะเลอันดามันสวยงามและไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ อาหารใต้อร่อยกินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ามากินถึงถิ่น ส่วนเมืองที่่แวะผ่านแต่ละเมืองต่างมีเอกลักษณ์น่าประทับใจ ที่สำคัญคือเที่ยวเมืองไทยเนี่ยมันรู้สึกอบอุ่นหัวใจดีจริงๆ อาจเพราะที่นี่คือเมืองไทย บ้านของเรา 
ปล. เห็นรุ้งกินน้ำในรูปกันมั๊ยค่ะ  

Tuesday, November 18, 2014

10 Best Things in Siem Reap

1.      Angkor National Museum : The Best for Starter



เริ่มต้นศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขอมกันที่ Angkor National Museum ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองเสียมราฐ พิพิธภัณฑ์เป็นอาคาร 2 ชั้น ขนาดกำลังดี ภายในมีพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ วัฒนธรรม รูปปั้น และสถาปัตยกรรมต่างๆของอารยธรรมขอม แบ่งเป็น 8 ห้อง 8 Theme ได้แก่ Exclusive Gallery ห้องแสดงพระพุทธรูปหายาก 1,000 องค์, ห้อง Gallery A : Khmer Civilization, Gallery B : Religion and Beliefs, Gallery C : Great Khmer Kings, Gallery D : Angkor Wat, Gallery E : Angkor Thom, Gallery F : Story from Stone และ Gallery G : Ancient Costume 
Best for : พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความเข้าใจประวัติความเป็นมาอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขอมโบราณ ซึ่งห้องต่างๆนอกจากจัดแสดงวัตถุโบราณล้ำค่าของกัมพูชาแล้ว ยังมีการนำเสนอสารคดีสั้นๆ เล่าประวัติศาสตร์ด้านต่างๆของอารยธรรมขอมผ่านจอ LCD ที่กระชับ และเข้าใจง่าย สามารถเลือกรับฟังได้ 7 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย นับเป็นการปูพื้นฐานความรู้ที่เยี่ยมมากก่อนเดินทางไปสัมผัสของจริงกันที่นครวัด ต่อไป 


2.  Angkor Wat : The Best for Magnificence

นครวัด...นครอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขอม สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่องค์หนึ่งของประวัติศาสตร์ขอม การสร้างใช้ทั้งแรงงานคนและช้างมากมาย ใช้หินจากภูเขานับพันก้อน และใช้เวลาก่อสร้างกว่า 30 ปี ความยิ่งใหญ่ของนครวัดสำหรับผู้เขียนเทียบเท่ามหาพีระมิดที่กีซ่า โคลอสเซียมที่โรม และกำแพงเมืองจีนที่ปักกิ่ง สมกับวลีเด็ดของนักเขียนชาวอังกฤษที่ว่า “See Angkor Wat and Die” ไม่ได้เป็นคำกล่าวที่เกินจริงเลย


นครวัดเป็นศาสนาสถานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก กินพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร แรกเริ่มสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวสถานบูชาพระวิษณุ เทพเจ้าในศาสนาฮินดู และเป็นศาสนาสถานประจำรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในสมัยต่อมาเป็นวัดในพุทธศาสนา โครงสร้างของนครวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ ส่วนในมีปรางค์บริวารล้อมรอบ 4 ยอด และมีปรางค์ประธานใหญ่ที่สุดตรงกลาง เป็นตัวแทนเขาพระสุเมรุที่อยู่ของทวยเทพ ด้านนอกล้อมรอบด้วยคูน้ำขนาดใหญ่ เชื่อมสองฝั่งด้วยสะพานนาค เปรียบเหมือนโลกสวรรค์กับโลกมนุษย์
Best for : นอกจากตัวนครวัดที่มีขนาดใหญ่โตแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกส่วน คือ ภาพแกะสลักนูนต่ำบนหินซึ่งอยู่บริเวณระเบียงคตหรือกำแพงทั้ง 4 ทิศของนครวัด ซึ่งแกะสลักเรื่องราวต่างๆมากมายจากคัมภีร์พระเวท มหาภารตะ รามายณะ การปกครอง สงคราม และสภาพบ้านเมืองสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ซึ่งล้วนสวยงามจับตา ละเอียด ประณีต และทึ่งกับความถึกและอดทนของศิลปินโบราณที่สร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามและวิจิตรบรรจงเช่นนี้ โดยเฉพาะภาพแกะสลัก สงครามทุ่งกุรุเกษตรในมหาภารตะ ที่อยู่ทางกำแพงฝั่งตะวันตก และภาพตำนาน การกวนเกษียรสมุทร ของเหล่าเทพและอสูร ทางฝั่งตะวันออก 

3.      Bayon Temple : The Best for Uniqueness

ปราสาทบายน...ปราสาทที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นและแตกต่างจากปราสาทขอมอื่นๆ เพราะนอกจากยอดปรางค์ของปราสาทซึ่งมีอยู่ 54 ยอด (ปัจจุบันเหลืออยู่ 37 ยอด) จะถูกแกะสลักเป็นหน้าคนพร้อมรอยยิ้มอยู่ทั้ง 4 ทิศ รวมแล้วมีถึง 216 หน้า โครงสร้างปราสาทแห่งนี้ยังแตกต่างจากปราสาทขอมทั่วไป เนื่องจากไม่มีส่วนของกำแพงเมืองล้อมรอบ แต่ตัวปราสาทอยู่ภายในกำแพงเมืองของนครธม (Angkor Thom) 




ปราสาทบายนสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรขอมโบราณ ซึ่งทำสงครามชนะพวกจาม สร้างนครธม และเป็นสมัยที่อาณาจักรขอมรุ่งเรืองและแผ่อิทธิพลยิ่งใหญ่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งพระองค์ยังทรงนับถือศาสนาพุทธและสร้างพุทธสถานไว้มากมาย อย่างปราสาทตาพรหม ที่สร้างถวายพระมารดา ปราสาทพระขรรค์ สร้างถวายพระบิดา ปราสาทตาโสม ปราสาทนาคพัน ปราสาทบันทายฉมาร์ รวมทั้งบูรณะปราสาทหินพิมาย และปราสาทเขาพนมรุ้ง และยังสร้าง ธรรมศาลาหรือที่พักคนเดินทาง และ อโรคยาศาลาหรือโรงพยาบาล รวมแล้วหลายร้อยแห่ง
Best for : ชื่นชมกับรอยยิ้มแห่งบายน รอยยิ้มปริศนาของรูปแกะสลักหน้าคนขนาดใหญ่ทั้ง 4 ทิศที่ปราสาทบายน ซึ่งยังเป็นปริศนาว่ารูปแกะสลักและรอยยิ้มนี้เป็นของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งได้อิทธิพลจากความเชื่อของศาสนาพุทธมหายาน สื่อถึงรอยยิ้มแห่งความเมตตาหรือความสุขของโลกุตะระ อีกความเชื่อกล่าวว่าเป็นหน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เนื่องจากยอดปรางค์ปราสาทมีทั้งสิ้น 54 ยอด เท่ากับจำนวนจังหวัดที่พระองค์ปกครอง สื่อถึงการดูแลราษฎรในอาณาจักรอย่างทั่วถึงและมีเมตตา สำหรับเราปราสาทแห่งนี้สวยงาม มีเอกลักษณ์ และน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะรอยยิ้มแห่งบายนแต่ละรูปไม่เหมือนกันเลย

4.      Ta Phrom Temple : The Best for Enchanted

ปราสาทตาพรหม..ปราสาทที่ถูกต้นไม้กลืนกินคงเป็นคำบรรยายที่เห็นภาพได้ดีที่สุดของสถานที่นี้ เมื่อครั้งชาวตะวันตกค้นพบกลุ่มปราสาทขอมโบราณบริเวณดินแดนแถบนี้ ทุกที่อยู่ในสภาพรกร้างกลางป่า ต่อมาจึงทำการถางป่า ตัดต้นไม้ ทำนุบำรุงและฟื้นฟูตัวปราสาทต่างๆ อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ มีเพียงปราสาทตาพรหม ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้รักษาสภาพดั้งเดิมเมื่อแรกค้นพบไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าปราสาทขอมที่ถูกค้นพบในครั้งแรกมีสภาพหน้าตาเป็นอย่างไร




ปราสาทตาพรหมสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นพุทธสถานที่สร้างขึ้นเพื่อถวายพระมารดา จัดเป็นปราสาทหินในยุคท้ายๆของอาณาจักรขอมโบราณ อยู่ในสมัยเดียวกับปราสาทบายน อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Hollywood ชื่อดังอย่างเรื่อง Tomb Raider ภาคแรก ปราสาทตาพรหมจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งของเสียมราฐ
Best for : การมาเที่ยวชมปราสาทตาพรหม พระเอกของที่นี่ไม่ได้อยู่ที่ตัวปราสาท แต่คือต้นสะปง ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นผู้รุกรานสถานที่แห่งนี้ บรรยากาศจึงดูขลัง ลี้ลับ ย้อนยุค สำหรับเราเหมือนหลุดเข้าไปในเมืองลับแลหรือนครต้องมนต์ กระตุ้นจินตนาการถึงภาพของปราสาทขอมเก่าแก่ทั้งหลายเมื่อถูกเจอกลางป่าที่ถูกทิ้งร้างพังทะลายและมีต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมดว่าเป็นอย่างไร

5.Banteay Srei Temple : The Best for Beauty 



ปราสาทบันทายสรี...ปราสาทหินทรายสีชมพูสวยหวาน สมชื่อแปลว่าป้อมปราการของสตรี เป็นปราสาทหินที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะ โดยพราหมณ์ชื่อ ยัชญวราหะ ซึ่งเป็นราชครูในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 จนมาแล้วเสร็จสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ปราสาทแห่งนี้แตกต่างจากประสาทขอมอื่นๆ เพราะถูกสร้างโดยพราหมณ์ จึงทำให้ปราสาทมีขนาดเล็กและไม่ได้ตั้งอยู่บนที่สูงอย่างปราสาทหินอื่นๆที่สร้างโดยกษัตริย์ อย่างไรก็ตามถึงจะเล็กก็เป็นเล็กพริกขี้หนู เพราะนักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างยกย่องให้เป็นปราสาทที่สวยงามที่สุดในดินแดนแห่งนี้ เนื่องจากลวดลายสลักบริเวณหน้าบัน ทับหลัง เสา คาน ที่วิจิตรบรรจง ประณีตสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
Best for : ภาพแกะสลักนูนต่ำตามหน้าบันที่สวยงามจับตาที่สุด มีความละเอียด ประณีต และเห็นเป็นสามมิติชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นภาพของเทพเจ้าฮินดูอย่างพระศิวะ พระแม่อุมา พระนารายณ์ รวมทั้งมหากาพย์รามายณะ และมหาภารตะ ซึ่งแสดงอารมณ์ต่างๆได้ชัดเจน มีชีวิตชีวา จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือภาพสลักจากหินไม่ใช่ภาพวาดหรือภาพถ่าย ที่พลาดไม่ได้ คือ หน้าบันแกะสลักรูปทศกัณฑ์ยกเขาไกลาส ภาพการร่ายรำของพระศิวะ ภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ  

6. Phnom Kulen : The Best for Outing 

พนมกุเลนแปลว่าภูเขาลินจี่ในภาษาเขมร เป็นภูเขาสูงทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเสียมราฐ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่โบราณ เคยเป็นเมืองของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ต่อมาหินของภูเขานี้ถูกนำไปก่อสร้างปราสาทขอมต่างๆ รวมทั้งนครวัด นครธม และยังเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเสียมราฐที่ไหลสู่โตนเลสาบอีกด้วย ปัจจุบันเป็นอุทยานแห่งชาติของกัมพูชา (Phnom Kulen National Park) 




พนมกุเลนห่างจากเมืองเสียมราฐประมาณ 40 กิโลเมตร การเดินทางเป็นถนนลูกรังไม่สะดวกนัก แต่รถสามารถขึ้นเขาได้ จากนั้นเดินเท้าต่อไม่กี่ร้อยเมตรจะถึงแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ได้แก่ น้ำตก 2 ชั้นขนาดใหญ่ วัดพระองค์ธม ซึ่งมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่แกะสลักจากก้อนหินใหญ่ และศิวลึงค์พันองค์ในลำธาร 
Best for : พนมกุเลนเป็นสถานที่แนะนำสำหรับคนที่เริ่มเบื่อปราสาทหินทั้งหลายในเมืองเสียมราฐและอยากสัมผัสธรรมชาตินอกเมือง เรียกว่ายิงกระสุนนัดเดียวได้นกถึงสามตัว เพราะที่นี่มีทั้งน้ำตก วัด และรูปสลักศิวลึงค์ใต้น้ำให้เที่ยวชม โดย Highlight ของที่นี่น่าจะเป็นศิวลึงค์พันองค์และรูปแกะสลักพระวิษณุขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้น้ำ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 บริเวณที่ศิวลึงค์ถูกสลักอยู่บนฐานโยนีมีจำนวนนับพันองค์ใต้น้ำนั้นเป็นบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำเสียมราฐ เพราะเชื่อว่าน้ำที่ผ่านศิวลึงค์จะเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ และไหลไปสู่แม่น้ำเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สอย ขอแนะนำให้มาในฤดูร้อน ซึ่งน้ำในลำธารจะน้อยทำให้เห็นรูปสลักในน้ำชัดเจน สำหรับเราไปช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำในลำธารทั้งเยอะทั้งเชี่ยว จึงแทบไม่เห็นรูปสลัก เสียดายมาก   

7. Angkor Wat VS Phnom Bakheng : The Best for Romantic Moment 



Best for : สำหรับจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามและโรแมนติกสุดของเมืองนี้ ขอแนะนำให้ตื่นเช้าเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด โดยควรออกจากโรงแรมที่พักกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อมาจับจองพื้นที่ยอดฮิตบริเวณบึงหน้าปราสาท ซึ่งจะเริ่มเห็นแสงแรกของวันกันในช่วงเวลาตี 5 ครึ่ง พระอาทิตย์จะขึ้นทางด้านหลังของพระปรางค์ (ด้านทิศตะวันตก) จนเห็นยอดปรางค์ทั้ง 5 สะท้อนน้ำ รับประกันความสวยงาม ยิ่งใหญ่ และเป็นประสบการณ์อันยากจะลืมแน่นอน ส่วนจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด คือ ยอดปราสาทพนมบาเค็ง ซึ่งอยู่บนภูเขาใกล้ๆนครวัด ที่นี่จะเห็นยอดปราสาทนครวัดทางตะวันออกเฉียงใต้ เห็นโตนเลสาบ และเห็นวิวของเมืองเสียมราฐที่ล้อมรอบด้วยป่าได้ 360 องศา โดยต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 15 นาที และปีนขึ้นปราสาทด้วยบันไดลิงอีกหน่อย ทางขึ้นปราสาทจะปิดเวลา 17.30 น. จึงควรเผื่อเวลาดีๆ

สำหรับปราสาทพนมบาเค็ง เป็นเทวสถานบูชาพระศิวะ สร้างในสมัยพระเจ้ายะโสวรมันที่ 1 ตั้งอยู่บนภูเขาสูงประมาณ 70 เมตร ไม่ห่างจากนครวัดมากนัก ปราสาทแห่งนี้สร้างเป็นรูปทรงปิรามิดสี่เหลี่ยมขั้นบันได 5 ชั้น ชั้นล่างสุดมีขนาดใหญ่สุดและลดหลั่นไปเรื่อยๆถึงชั้นบนสุด มีบันไดขึ้นสี่ด้าน ที่ระเบียงแต่ละชั้นมีปราสาทเล็กๆ 4 มุม ภายในปรางค์ประธานชั้นบนสุดมีศิวลึงค์สัญลักษณ์บูชาพระศิวะตั้งอยู่ 


8 Rent Bicycle : The Best for Siem Reap Exploring 


เสียมราฐ หรือชื่อท้องถิ่นว่าเสียมเรียบ (Siem Reap) เป็นจังหวัดหนึ่งในกัมพูชา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ห่างจากกรุงพนมเปญ 314 กิโลเมตร คำว่าเสียมราฐในภาษาไทย หมายถึง ดินแดนของสยาม ส่วน เสียมเรียบ ในภาษาเขมรมีหมายความว่า "สยามแพ้ราบเรียบ" ที่มา มาจากพงศาวดารเขมร จ.ศ. 1217 เป็นสงครามที่สยามแพ้กัมพูชา สมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราช ในปี พ.ศ.2089 แต่บางแหล่งเชื่อว่าชื่อ "เสียมเรียบ" ตั้งขึ้นใหม่แทน "เสียมราฐ" หลังจากกรณีพิพาทอินโดจีนที่ไทยแพ้ในการขับไล่ฝรั่งเศสออกจากดินแดนฝั่งขวาแม่น่ำโขง บริเวณจ.พระตะบอง และเสียมราฐ 
Best for : เสียมราฐในปัจจุบันเป็นจังหวัดขนาดไม่ใหญ่มาก ถนนหนทางไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ บริเวณท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างนครวัด นครธม ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นอุทยานมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นย์มากมาย (อารมณ์ประมาณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยบ้านเรา) การเที่ยวที่เมืองนี้ อยากแนะนำให้เช่าจักรยานขี่ชมวัด ชมเมือง เพราะเป็นกิจกรรมที่ทั้งสนุกและแสนชิล นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติและมรดกโลกอย่างเต็มอิ่ม เข้าถึงวิถีชีวิตชาวเสียมราฐอย่างใกล้ชิด ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวจนถึงฤดูหนาว อากาศเย็นสบายสุดๆ สำหรับร้านให้เช่าจักรยานมีมายมายในตัวเมืองเสียมราฐ ค่าเช่าทั้งวันก็แสนถูกประมาณ 1-2 ดอลล่าห์เท่านั้น

9.      Take Tuk Tuk : The Best for Chill Chill Exploring 



หากการเช่าจักรยานขี่ชมปราสาทหินและชมเมืองตลอดทั้งวันดูเป็นกิจกรรมที่เหนื่อยเกินไป ขอแนะนำการเช่ารถตุ๊ก ตุ๊ก เพื่อเป็นพาหนะเดินทางในเมืองเสียมราฐแทน เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเมืองและโบราณสถานอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังเป็นการเดินทางที่สนุกและแสนสบาย รถตุ๊ก ตุ๊กของที่นี่ คือ มอเตอร์ไซด์ 2 ล้อ ดัดแปลงใส่ที่นั่งคล้ายที่นั่งรถม้าไว้ด้านหลัง ในตัวเมืองเสียมราฐมีให้บริการตลอดสองข้างถนน หากเดินทางใกล้หน่อยค่าบริการมักจะเริ่มต้นที่ 1 ดอลล่าห์ และหากเหมาไปชมนครวัด นครธม จนถึงปราสาทตาพรหม ซึ่งเป็นกลุ่มปราสาทหินรอบใน (Small Cycle) ค่าบริการทั้งวันอยู่ประมาณ 12-15 ดอลล่าห์ 
Best for : หากไปเที่ยวเมืองเสียมราฐช่วงปลายฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว แนะนำใช้เช่ารถตุ๊ก ตุ๊ก เป็นพาหนะเดินทาง เพราะนอกจากอากาศที่เย็นสบายเกือบทั้งวันให้ความรู้สึกแสนชิลแล้ว ประสบการณ์แบบนี้หาได้ยากในกรุงเทพ ที่ที่ถึงจะมีตุ๊ก ตุ๊กเต็มเมือง แต่รถติดและเต็มไปด้วยควันพิษ ต่างจากเมืองเสียมราฐที่แออัดน้อยกว่า และต้นไม้เต็มเมือง 

10.      Pub Street : The Best for Hang out 



ย่าน Shopping กินข้าว Hang out ของเสียมราฐหลักๆ มีย่าน Night Market, Old Market และ Pub Street ซึ่งทั้งสามย่านนี้อยู่บริเวณด้านใต้ของเมือง สามารถเดินถึงกันได้ ไม่ไกลกันมาก โดยสินค้าที่ขายส่วนใหญ่ใน Night Market หรือ ตลาดกลางคืน ได้แก่ เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ภาพวาด ของฝาก ของที่ระลึกพื้นเมืองของกัมพูชา อารมณ์ประมาณตลาด Night Bazaar ของเชียงใหม่ ส่วน Old Market คือ ตลาดเก่าแก่ของเมือง มีขายสินค้าตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ตั้งแต่อาหารสดจนถึงวัสดุก่อสร้าง ให้อารมณ์ตลาดโรงเกลือที่สระแก้ว ส่วน Pub Street เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และร้านขายของ เหมาะกับการ Hang out และหาข้าวเย็นหลังจากเสร็จภารกิจเที่ยวชมปราสาทหินมาทั้งวัน
Best for : Pub Street เป็นย่านกินข้าว และ Shopping ที่ถูกจริตเราอย่างมาก เพราะนอกจากสองฝั่งถนนจะเต็มไปด้วยร้านอาหารหลายหลากสไตล์ตั้งแต่อาหารพื้นเมืองกัมพูชาจนถึงอาหารนานาชาติ ราคาหลายระดับ ยังมีผับ-บาร์ ที่ตกแต่งร้านเก๋ไก๋ มีร้านนวดราคาไม่แพง ร้านขายของงานฝีมือสวยๆติสต์ๆอยู่เพียบ ย่านนี้ยังได้บรรยากาศย้อนยุคเพราะเต็มไปด้วยอาคารสวยๆแบบ French Colonial ที่ปัจจุบันกลายเป็นร้านรวงเก๋ๆ Pub Street คล้ายถนนข้าวสารที่บางลำพู แต่สะอาด เป็นระเบียบ และสวยงามกว่ามาก






Monday, October 20, 2014

Top 5 favorite things in Taipei while enjoy working in Taiwan

ไต้หวันเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กกลางมหาสมุทรแปซิฟิก แต่เดิมชื่อว่า เกาะฟอร์โมซา (Formosa) แปลว่า "เกาะสวยงาม" ในภาษาโปรตุเกส เนื่องจากประเทศโปรตุเกสเคยเดินทางมายังเกาะนี้และได้ตั้งชื่อเอาไว้ แต่ไม่ได้ยึดเอามาเป็นอาณานิคมแต่อย่างใด ปัจจุบันสหประชาชาติประกาศรับรองจีนเดียว คือ จีนแผ่นดินใหญ่ หรือสาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China) และตัดสัมพันธ์ทางการเมืองกับไต้หวัน ส่วนจีนก็อ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สำหรับไต้หวันกลับมองว่าตนเองเป็นอีกประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยของตนเอง เป็นอิสระ และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่แต่อย่างใด โดยเรียกประเทศตนเองว่า "Republic of China" ซึ่ง 6 คืน 7 วัน สำหรับเราในไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน เรารู้สึกจริงๆว่าไต้หวันไม่ใช่จีน และจีนไม่ใช่ไต้หวัน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราประทับเมืองนี้ในหลายๆเรื่อง เลยขอจัดอันดับ 5 สิ่งโปรดปรานที่เราค้นพบระหว่างการไปทำงานที่ไทเป ไต้หวัน มาเล่าให้ฟัง...


No. 1 The Sweetest Chinese...คนจีนน่ารัก 
ไต้หวันมีประชากรประมาณ 23 ล้านคน ส่วนใหญ่กว่า 95 % เป็นชาวจีน ซึ่งมีบรรพบุรุษอพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบกษัตริย์เป็นคอมมิวนิสต์ คนไต้หวันมีอัธยาศัยดี เป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส และมีน้ำใจพร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเสมอ แถมคนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี การท่องเที่ยวประเทศนี้ ภาษาจึงไม่ใช่อุปสรรค ชาวไต้หวันเป็นคนจีนที่มีมารยาท สุภาพ และมีระเบียบวินัย ซึ่งแตกต่างกับชาวจีนส่วนใหญ่ที่เราเคยพบเจอในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง สิงคโปร์ หรือที่อื่นๆ เราขอยกให้ไต้หวันเป็นชาติที่มีคนจีนนิสัยน่ารักและมารยาทงามที่สุดในโลก เป็นอันดับหนึ่งแห่งความประทับใจของเรากับประเทศนี้ 

No. 2 Modern City...เมืองไฮเทค เที่ยวเองง่ายสบายมาก
ไต้หวันมีการจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีมากในหลายๆด้าน ทำให้การมาเที่ยวหรือมาธุรกิจที่ไต้หวันเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ตั้งแต่เรื่องวีซ่า ซึ่งหากคนไทยที่มีวีซ่ายังไม่หมดอายุของอเมริกา แคนาดา ยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ไม่ต้องทำวีซ่าไต้หวันให้ยุ่งยาก สามารถเข้าไปกรอกรายละเอียดขอยกเว้นวีซ่าได้ทางเวปไซด์ของสถานทูตไต้หวันประจำประเทศไทย แล้วพิมพ์เอกสารออกมา ยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย เป็นระบบที่ฉลาด ง่าย ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา และสะดวกสุดๆ 
ส่วนการเดินทางในไทเปสามารถใช้บริการรถไฟฟ้า (MRT) ซึ่งมีโครงข่ายครอบคลุมย่านหลักๆไว้ทั่วทั้งเมือง ทั้งย่านธุรกิจ แหล่งท่องเที่ยว แหล่งซ็อปปิ้ง ค่าบริการก็ไม่แพง เริ่มต้นที่ 20 ดอลล่าห์ไต้หวัน ไปจนถึง 65 ดอลล่าห์ไต้หวัน สำหรับการติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เนต ที่นี่ได้ใจเราไปเลย เพราะทั้งเร็วและแรง แถมจุด wifi ฟรี ก็หาได้ไม่ยากด้วย



No. 3 Shop-Chim-Chill City...ช็อบ ชิม ชิล @ ไทเป 
เมืองหลวงอย่างไทเปมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอยู่มากมาย แต่ความสนุกของเมืองนี้สำหรับเรา คือ การช็อปปิ้ง กินข้าว และเดินเล่นสบายๆดูเมืองและผู้คนมากกว่า 
ค่าครองชีพ ค่าเดินทาง และอาหารการกินที่ไต้หวันไม่แพงเลย ราคาไม่ต่างกับบ้านเรามากนัก อาหารจีนไต้หวันอร่อย มีรสชาติมากกว่าอาหารจีนแผ่นดินใหญ่หลายขุม ส่วนอาหารต่างชาติอย่างญี่ปุ่น ไทย อาหารฝรั่ง ร้านเค้ก ร้านไอศครีม อร่อยๆก็หากินได้ไม่ยาก 
เมนูแนะนำต้องเสี่ยวหลงเปาร้านอร่อยอย่าง Din Tai Fung ที่ต้องรอคิวกันนานนิด แต่อร่อยและถูกกว่าสาขาในบ้านเราแน่นอน หม้อไฟแบบไต้หวัน ก๋วยเตี๋ยวบ้านๆ และอาหารริมทาง ก็อร่อยและสบายกระเป๋า ของหวานเครื่องดื่มต้องน้ำแข็งใส ชาไข่มุก และยาคู๊ ซึ่งอันหลังชอบมาก รสชาติละมุนละไมกว่ายาคู๊บ้านเราเยอะ 
สำหรับย่านช็อปปิ้งในไทเปมีหลายย่านให้เลือกตามรสนิยม ถ้าชอบสินค้าแบรนเนมระดับโลก ต้องแถวไทเป 101 ลง MRT สถานี Taipei City Hall หากสนใจย่านซ็อปปิ้งวัยรุ่น ได้บรรยากาศแบบสยามบ้านเราหรือชิบูย่าของญี่ปุ่น ต้องย่าน XImen และหากอยากเดินตลาดบ้านๆ ของเยอะๆ ต้องย่าน Shilin ซึ่งเป็น Night Market เก่าแก่ของไต้หวัน เปิดจนถึงเที่ยงคืน ที่นี่เดินสนุก อากาศดี ของกินเยอะ เสื้อผ้าของใช้มากมาย ราคามิตรภาพ


No. 4 Eslite Bookstore...ค้นพบร้านหนังสือในฝัน
ร้านหนังสือ Eslite เป็นร้านหนังสือชื่อดังของไต้หวัน มีหลายสาขาทั่วประเทศ แต่สาขาที่เจ๋งสุด คือ ร้านบนถนน Dunhua ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง มีทั้งสิ้น 6 ชั้น นอกจากจะมีหนังสือมากมายโดยเฉพาะหนังสือภาษาจีน และญี่ปุ่น ส่วนภาษาอังกฤษมีมากพอสมควร ยังมีร้านกาแฟ อุปกรณ์เครื่องเขียน เครื่องเสียง เพลง หนัง ของตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร แกลอรี่ ความประทับใจของเรากับที่นี่ นอกจากจะเป็นร้านหนังสือที่มีขนาดใหญ่ มีหนังสือ สินค้ามากมาย และเปิด 24 ชั่วโมงแล้ว ที่นี่มีการตกแต่งที่สวยงาม บรรยากาศดี เหมือนอยู่ในห้องสมุดขนาด 6 ชั้น มีมุมให้อ่านหนังสือสบายๆแทบทุกที่ เงียบสงบถึงแม้จะมีลูกค้ามากมาย คนไต้หวันนิยมอ่านหนังสือกันมาก เห็นได้จากตอน 4 ทุ่ม ร้านยังเต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามาหาหนังสืออ่าน สำหรับเราเป็นร้านหนังสือที่สามารถอยู่ได้เป็นวัน และเจ๋งมากๆแห่งหนึ่งของโลก



No . 5 National Palace Museum...เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สุดเจ๋ง
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมศิลปะวัตถุของอารยธรรมจีนที่มากและมีชื่อเสียงที่สุดของโลก โดยคอเลคชั่นส่วนใหญ่ถูกขนย้ายหนีภัยสงครามกับญี่ปุ่นมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่ปี 1931 ยิ่งในช่วงสงครามกลางเมืองของจีนระหว่างฝ่ายคอมมิวนิสต์และฝ่ายชาตินิยม ในปี 1949 โบราณวัตถุกว่า 600,000 ชิ้น ได้ถูกย้ายมาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ของไต้หวันแห่งนี้ ตัวพิพิธภัณฑ์ภายนอกสร้างแบบพระราชวังโบราณของจีน แต่ภายในถูกตกแต่งและวางรูปแบบเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยนำเสนอ ทำให้การชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สนุกและน่าสนใจยิ่งขึ้น ภายในมีทั้งสิ้น 5 ชั้น โดยชั้นที่ 1-3 เป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะวัตถุของจีนล้วนๆ ทั้งรูปปั้น ภาพวาด เครื่องมือ-เครื่องใช้ในอดีต งานเซรามิกส์ งานแกะสลักหิน-หยก-งาช้าง เครื่องทองแดง และหนังสือหายาก ส่วนชั้นบนสุดเป็นห้องชา (Teahouse) และชั้นล่างสุดเป็นทางเข้า ที่ขายตั๋ว และร้านขายของที่ระลึก สำหรับ Masterpieces ของพิพิธภัณฑ์นี้ยกให้ หยกแกะสลักรูปหัวผักกาดที่มีตั๊กแตนเกาะ (The Jadeite Cabbage) และหินแกะสลักรูปหมูสามชั้น (The Meat Shaped Stone)



Sunday, September 28, 2014

“Tokyo selection ; the capital of everything with my 5 favorite something”

โตเกียว...เมืองหลวงของญี่ปุ่นที่แสนโปรดปรานของเรา ไปแล้วไปอีกไม่รู้เบื่อ เป็นเมืองที่มีสิ่งเจ๋งๆอยู่มากมาย ทั้งญี่ปุ่นโบราณแนวศิลปะวัฒนธรรม วัดวาอารามเก่าแก่ พระราชวังหลวง และพิพิธภัณฑ์ดีๆมากมาย ญี่ปุ่นสมัยใหม่แนวศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าที่แสนวุ่นวาย หรือความเป็นเมืองไฮเทคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำๆซึ่งอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวโตเกียว บทความเรื่องโตเกียวของเราในเดือนนี้ จึงอยากนำเสนอสุดยอด 5 กิจกรรมที่เราพิสูจน์มาแล้วว่าสนุก คุ้มค่า ปลื้มปริ่ม และฟินสุดๆ ไปอ่านกันเลยค่า

กิจกรรมที่ 1 Shopping : กิจกรรมแสนสนุก ถูกจริตคนไทย โตเกียวเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยของเจ๋งๆ และย่านการค้าสนุกๆให้เดินชม เดินช็อบได้ทั้งวัน ย่านการค้าแต่ละแห่งของญี่ปุ่นมักมีเอกลักษณ์และจุดขายเฉพาะของตนเอง เราขอเลือก 10 ย่านช็อบที่โปรดปราน หลากหลาย และน่าสนุก ให้ลองเลือกกันตามความสนใจนะค่ะ
1. Ueno (การเดินทางใช้ Metro หรือรถไฟ JR สถานี Ueno) เป็นย่านที่เป็นแหล่งรวมของกิน ของใช้แบบ Made in Japan ในราคามิตรภาพ บรรยากาศบ้านๆสบายๆ ที่นี่เหมาะซื้อพวกขนมของฝากในปริมาณเยอะๆ ราคาไม่แพง 
2. Yanaka (Metro สถานี Sendaji หรือ JR สถานี Nippori) ย่านที่ให้บรรยากาศแบบเพลินวานของโตเกียว ทั้งบ้านเรือนร้านค้าที่ยังคงเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นเมื่อหลายสิบปีก่อน มีถนนช็อปปิ้ง Yanaka Ginza ที่มีความยาวไม่ถึง 200 เมตร แต่เต็มไปด้วยร้านค้าสองข้างทาง    
3. บริเวณวัด Asakusa (Metro สถานี Asakusa) เต็มไปด้วยของฝากของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ประมาณชุดยูกาตะ ตุ๊กตาแมวกวัก ของกระจุกกระจิกลวดลายแบบญี่ปุ่น ย่านนี้จะได้บรรยากาศความเป็นเมืองวัฒนธรรมของโตเกียวอย่างชัดเจน  
4. Akihabara (JR สถานี Akihabara) คือ ย่านเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แหล่งรวมร้านเกมส์ ภาพยนต์และหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น สร้างมาเพื่อชาวโอตาคุโดยแท้  
5. Ginza (Metro สถานี Ginza) ย่านแฟชั่นหรูหราไฮโซที่สุดของโตเกียว มีทั้งร้านค้า, ห้างสรรพสินค้า, Boutiques ชั้นนำของโลก 


6. Shinjuku (Metro หรือ JR สถานี Shinjuku) คือ ย่านจับฉ่ายสุดโปรดของเรา เป็นแหล่ง Shopping ขนาดใหญ่รอบสถานีรถไฟ Shinjuku ที่วุ่นวาย มีร้านค้าใต้ดินบริเวณสถานีรถไฟ, ห้างสรรพสินค้า, Flagship stores สัญชาติญี่ปุ่นและต่างชาติ, ร้านสินค้ามือสองพวกกระเป๋า นาฬิกา, ร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนร้านอาหาร บาร์ และแหล่งบันเทิงตอนกลางคืน
7. บริเวณห้าแยก Shibuya ที่โด่งดัง (Metro หรือ JR สถานี Shibuya) ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ห้างสรรพสินค้าฮิบๆ เดินให้ครบทุกแยกก็อยู่ได้เป็นวัน
8. Harajuku (Metro หรือ JR สถานี Harajuku) ย่านขวัญใจวัยรุ่นและเด็กแนวทั้งหลาย มีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นฮิบๆ เก๋ๆ ทั้งของดีไซเนอร์ญี่ปุ่นและต่างชาติ ถนนยอดฮิตย่านนี้ ได้แก่ Takeshita Dori และ Omotesando
9. Roppongi และบริเวณ Tokyo Tower (Metro สถานี Roppongi) ย่านไฮโชอีกแห่งของโตเกียว เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ บาร์เดิ้นๆ แหล่งบันเทิงตอนกลางคืนชื่อดัง และห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมสินค้า High end มากมาย
10. Odaiba (JR สถานี Shimbashi และต่อรถไฟสาย Yurikamome ถึงสถานี Daiba) เกาะที่เกิดจากการถมขยะ มี Shopping Complex ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงหนัง ห้างสรรพสินค้ามากมาย ตั้งอยู่ริมอ่าวโตเกียว มีสะพาน Rainbow เป็นฉากหลัง มองเห็น Tokyo Tower อยู่ไกลๆ ที่นี่ตอนเย็นจนถึงค่ำบรรยากาศดีมากๆ   


กิจกรรมที่ 2 Eating : โตเกียว คือ สวรรค์แท้ๆของนักชิม เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนม ที่รสชาติอร่อยเลิศ ทั้งร้านญี่ปุ่นแท้ๆและร้านดังจากต่างประเทศที่มาเปิดสาขาที่เมืองนี้ การันตีความอร่อยและคุณภาพได้ไม่ยากเพราะเป็นเมืองที่มีร้านอาหารติดดาว Michelin Stars อยู่มากที่สุดของโลก เราขอเลือก 10 ร้านอาหาร/ร้านขนม ที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านโปรดของเรา และบางร้านเป็น wish list ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องขอลองชิมสักหน่อย
1. Omotesando-Ukai tei (http://www.ukai.co.jp/english/omotesando/index.html) ร้านเทปันยากิที่ได้ Michelin 1 star ใช้วัตถุดิบสดๆตามฤดูกาล รสชาติเกินคำบรรยาย การเเต่งร้านเเละบรรยากาศน่าประทับใจ ที่ห้ามพลาดของหวานร้านนี้ทำได้ดีมีรสชาติไม่เเพ้อาหารเลย
2. Ishikawa (http://www.kagurazaka-ishikawa.co.jp/english/index_e.html) ร้านอาหารญี่ปุ่นกึ่งฟิวชั่น Michelin 3 star หลายปีซ้อน โดดเด่นที่การใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และมีเมนูหายากมาเซอร์ไพรส์ลูกค้า
3. Sukiyabashi-Jiro (http://www.sushi-jiro.jp/index.html) ร้านซูชิ Michelin 3 star 6ปีซ้อน กับตำนานที่ยังคงมีชีวิต เจ้าของหนังดังอย่าง Jiro Dreams Of Sushi ที่ปีนี้จิโรซังจะอายุ 90 ปีเเล้ว ทั้งที่ถูกเเพทย์ห้ามไม่ให้ทำงานเเต่ศิลปินซูชิคนนี้ก็หาได้สนใจ ยังคงพยายามมาปั้นซูชิให้ลูกค้าเเทบทุกวัน 
4. Kokugyu (http://www.facebook.com/kokugyu) ร้านเนื้อปิ้งย่างเจ้าอร่อยร้านนี้ พิเศษตรงที่รวบรวมคัดเอาเเต่เฉพาะส่วนของเนื้อที่ดีที่สุดเเละหายากๆที่เป็น A5 ของวัวทั่วญี่ปุ่นมา โดยเเต่ละวันจะเป็นวัวต่างชนิดกันเเล้วเเต่ที่ทางร้านจะหามาได้


5.  Shabu Zen (http://roppongi.shabuzen.jp/) ร้านชาบูและสุกียากี้ร้านนี้ โดดเด่นด้วยเนื้อโกเบแสนอร่อย ที่คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ของเนื้อที่นุ่ม หอม หวาน และละลายในปาก แถมกินได้จนพุงกาง เพราะมันเป็น Buffet
6. Ichiran Ramen (http://www.ichiran.co.jp/english/) Hakata Ramen ที่โด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น เป็นร้านราเมงอร่อยที่สุดในชีวิตของเรา ส่วนผสมทุกอย่างเลือกได้ตามใจชอบ (Customize Ramen ของแท้) จะเอาเส้นเยอะ น้อย นุ่ม แข็งขนาดไหน หมูเยอะ น้อย หนา บาง ได้หมด สุดยอดความอร่อย คือ น้ำซุปที่หอม หวาน กลมกล่อมสุดๆ
7. Becker’s (http://www.jefb.co.jp/beckers/) ร้านเบอร์เกอร์ญี่ปุ่นในดวงใจ ประทับใจในปริมาณและคุณภาพของเนื้อที่อร่อย ชีสเยอะสะใจ ผักเต็ม ซ๊อสมีเอกลักษณ์ ขนมปังหอมใหม่ ขนาดใหญ่ได้ใจ เป็น Fast food ที่คุ้มค่า คุ้มราคา อิ่มอร่อย แลดูสุขภาพดี


8. Kyo Hayashiya (http://www.kyo-hayashiya.com/) ร้านขนมชาเขียวที่มีอายุเก่าแก่จากเกียวโต เป็นร้านขนมสุดโปรดของเราในญี่ปุ่น ชาเขียวที่นี่รสชาติกลมกล่อม หอม หวาน ขมนิดๆ อร่อยทุกอย่างตั้งแต่เค้ก ไอศครีม โมจิ แต่ที่ต้องเคลิ้มสุดๆของยกให้ชาเขียวเย็นใส่นมที่แจ๋วที่สุดตั้งแต่เคยกินมา     
9. Pierre Herme (http://www.pierreherme.co.jp/) ร้าน Pastry ดังของฝรั่งเศสที่คนไทยไม่ต้องบินไปไกลถึงปารีส เค้ก ช็อกโกแลต และ Macaron ของที่นี่หน้าตาก็ดี รสชาติก็ดี โดยเฉพาะ Macaron อร่อยชนะเลิศจริงๆ ทั้งแป้งที่กรอบ นิ่ม และแน่นกำลังพอดี และไส้ที่รสชาติหวานหอมละมุน ลงตัวเป็นที่สุด  10. Clinton St. Baking Company & Restaurant (http://www.clintonstreetbaking.co.jp) ร้านเเพนเค้กชื่อดังจากนิวยอร์ก ถูกใจที่สุด คือ Blueberry Pancake ที่เเป้งนุ่มละมุนเนียนมากๆ ราดด้วยบลูเบอร์รี่ลูกโตๆ สอดไส้ไปถึงด้านในของตัวเเพนเค้ก พร้อมเมเปิ้ลบัตเตอร์สูตรพิเศษ หอมรสกลมกล่อม


     กิจกรรมที่ 3 Exploring Ueno Park : ย่านท่องเที่ยวสุดคุ้มในโตเกียวที่เราขอแนะนำ หากคุณมีเวลาจำกัด งบประมาณจำกัด หรือไม่รู้จะเที่ยวไหนดี แนะนำให้มาที่นี่เลย เพราะคุ้มค่าทั้งคุณภาพและปริมาณ ที่พักย่านนี้ราคาไม่แพงนักเมื่อเทียบกับโซนอื่นๆของโตเกียว ส่วนสวนสาธารณะ Ueno นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะใหญ่ของโตเกียวให้ผู้คนมาออกกำลังกายและเดินเล่นพักผ่อนแล้ว ย่านนี้ยังมีอะไรเจ๋งๆมากมาย เที่ยวได้เพลินๆทั้งวัน



     - โด่งดังที่สุดของสวน Ueno คือ เทศกาลดอกซากุระบาน ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน Ueno Park มีต้นซากุระกว่าพันต้น เป็นสถานที่ยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลดังกล่าว
     - สำหรับ Museum Lover ที่สวน Ueno มีพิพิธภัณฑ์ดีๆน่าสนใจให้เข้าชมเพียบ ราคาค่าเข้าก็ไม่แพง เหมาะแก่การหาความรู้ใส่ตัวเป็นอย่างยิ่ง ที่โด่งดังที่สุด คือ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ Tokyo National Museum และยังมี National Museum for Western Art, Tokyo Metropolitan Art Museum, National Science Museum และ Shitamachi Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิตสมัย Edo หรือ โตเกียวสมัยโบราณ  
     - สำหรับบ้านไหนที่พาลูกเล็กๆมาเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมแวะ Ueno Zoo สวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีดาราดัง คือ  เจ้าหมีแพนด้า ที่เป็นทูตวัฒนธรรมจากจีน  
     - ส่วนใครอยากเที่ยววัด ไหว้พระ ขอพร ที่บริเวณสวนแห่งนี้มีวัดและศาลเจ้าหลายแห่ง ทั้ง Keneiji Temple, Kiyomizu Kannon Temple, Toshogu Shrine และศาลเจ้ากลางน้ำ Bentendo
     - Shopping Lover ทั้งหลาย สามารถสนุกกับการจับจ่าย ของกิน ของใช้ Made in Japan ในราคาไม่แพงได้บริเวณรอบๆสถานีรถไฟ Ueno มีตลาด Ameyoko ที่มีสินค้าตั้งแต่ของสด ของแห้ง ของฝาก อาหาร สินค้าแฟชั่น เครื่งใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์กีฬา ร้านขายสินค้ามือสอง ฯลฯ ห่างออกไปไม่ไกล มีตึกม่วง Takeya ที่คนไทยนิยมมาซื้อของกิน ของใช้ ของฝาก

กิจกรรมที่ 4 Fulfilling your dream : โตเกียวเป็นเมืองที่เหมาะกับการเติมเต็มความฝันสำหรับคนที่คลั่งไคล้ หลงไหล หรือชอบอะไรบางอย่าง เพราะที่นี่มีร้านค้า ร้านอาหาร สวนสนุก ย่านการค้า ที่มีความเฉพาะตัวมากๆ เป็นต้นตำรับ ครบเครื่อง รุ่นล่าสุด Limited Edition หรืออะไรก็ตามที่เป็นเอกลักษณ์สุดๆ สร้างสรรค์มาสำหรับคนที่หลงไหลอะไรสักอย่างให้ได้เต็มอิ่มกับบางสิ่งที่หลงรักอย่างแท้จริง  

- ผู้ที่หลงไหลอุปกรณ์ Gadget ทั้งหลาย สินค้าไฮเทค เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้อง เกมส์ ตลอดจนชาวโอตาคุผู้เติบโตมากับการ์ตูนญี่ปุ่น โมเดลการ์ตูน ย่าน Akihabara จะทำให้คุณอยู่ได้ทั้งวัน
- ถ้าคุณเป็นนักดนตรี คุณจะอิ่มเอมกับย่าน Ochanomizu ซึ่งถนนทั้งสายขายเครื่องดนตรีสารพัดชนิด หลากหลายสัญชาติ ทั้งของใหม่และของมือสอง คุณภาพเยี่ยม ในราคาหลากหลาย
- แม่บ้านพ่อบ้านทั้งหลาย แนะนำย่าน Kappabashi แหล่งรวมสินค้าที่เกี่ยวกับการทำครัวทำอาหารทั้งหมด
- หนอนหนังสือ ต้องย่าน Jimbocho ที่เป็นแหล่งรวมร้านหนังสือและสิ่งพิมพ์ ที่เก่าแก่และขึ้นชื่อของโตเกียว  
- คงต้องมีเวลาหลายวันหน่อยสำหรับสาวๆ Fashionista ทั้งหลาย เพราะ โตเกียวคือหนึ่งในบรรดาเมืองแฟชั่นก้องโลก คุณจะฟินมากกับย่าน Ginza, Shibuya, Harajuku และ Roppongi
- เด็กน้อยหรือผู้ใหญ่หัวใจเด็กทั้งหลายต้องมีความสุขมากกับบรรดาสวนสนุก ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ อย่าง Sanrio Puroland ซึ่งเป็นธีมพาร์คตัวการ์ตูนของ Sanrio, Gundum Café ร้านอาหาร และร้านขายสินค้าของหุ่นยนต์ Gundum แถว Akihabara พิพิธภัณฑ์โดเรมอน หรือ Fujiko F Fujio Museum ที่เมือง Kawasaki หรือพิพิธภัณฑ์อังปังแมน ที่เมือง Yokohama ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว
- สำหรับเราผู้ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง One Piece ซึ่งเป็นเรื่องราวการผจญภัยของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เพื่อค้นหาสมบัติที่เรียกว่า One Piece สาวกอย่างเราเมื่อมาถึงโตเกียวต้องไปเยี่ยมภัตราคาร Baratie ของพ่อครัวซันจิ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ที่เป็นร้านอาหารจริงๆ ถอดแบบและตกแต่งร้านแบบในการ์ตูน ฝันที่เป็นจริงและฟินมากๆ ใครสนใจไปลองได้ที่ชั้น 7 ตึก Fuji TV Building ที่เกาะ Odaiba

กิจกรรมที่ 5 Enjoy ONE day trip : โตเกียว คือ ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองที่ดีมาก สนามบิน สถานนีรถไฟ รถไฟใต้ดิน และท่ารถบัส มีการเชื่อมต่อที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เป็นเมืองหลวงที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองได้ง่ายมากๆ แถมยังสามารถเที่ยวเมืองอื่นๆได้มากมาย สะดวกสบายที่สุดเมืองหนึ่งของโลก กิจกรรมสุดท้ายที่อยากแนะนำ คือ สถานที่ท่องเที่ยวต่างเมือง 10 แห่ง ที่คุณสามารถเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้จากโตเกียว การเดินทางส่วนใหญ่ใช้รถไฟ ซึ่งแต่ละแห่งใช้เวลาเดินทางสบายๆครึ่งชั่วโมงถึงสองชั่วโมง 
 1. Yokohama : เมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น มีย่าน Chinatown ชื่อดัง พิพิธภัณฑ์ราเมง และ Hekkeijima สวนสนุกและ Aquarium ที่น่าจะถูกใจคุณหนูๆ แนะนำย่านเมืองสวยๆริมน้ำอย่าง Minato Mirai ที่มีศูนย์การค้า สวนสนุก ตึกและสิ่งก่อสร้างฮิบๆ ชิคๆ ให้ชมมากมาย
2. Kamakura : เมืองท่องเที่ยวเล็กๆริมทะเลซึ่งมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ มีวัดวาอารามที่สวยงามมากมาย วัดที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ วัดพระใหญ่ Daibutsu    
 3. Mt.Takao : ใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติของป่าเขาใกล้เมืองหลวงต้องที่นี่ ภูเขา Takao มีเส้นทาง Trekking เดินป่าให้เลือกกันตามกำลัง มีวัด ศาลเจ้าและจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองโตเกียวจนถึงโยโกฮาม่า ในวันอากาศดีอาจมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นในวันสุดสัปดาห์ เทศกาลชมซากุระ และใบไม่เปลี่ยนสี
4. Fuji 5 lakes : 5 ทะเลสาบที่ชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างใกล้ชิด ได้แก่ ทะเลสาบ Kawaguchiko, Saiko, Yamanakako, Shojiko และ Motosuko ทะเลสาบเหล่านี้มีรีสอร์ตให้พักผ่อน และมีกิจกรรมให้ทำมากมายทั้งตั้งแคมป์ แช่ออนเซน ไปสวนสนุก Fuji Q Highland เที่ยวพิพิธภัณฑ์ มีจุดชมวิวภูเขาฟูจิยอดนิยมที่ Chureito Pagoda แนะนำทะเลสาบ Kawaguchiko เพราะเดินทางสะดวกที่สุด เหมาะต่อการเที่ยวเช้าไปเย็นกลับ


5. Hakone : เมืองออนเซนชื่อดังใกล้โตเกียวที่คนไทยนิยมไปล่องเรือโจรสลัดชมทะเลสาบ นั่งกระเช้าชมวิว แวะกินไข่ดำ ดูวิวภูเขาไฟฟูจิ และ Shopping Outlet แนะนำให้ลองพักสักคืนตามโรงแรมแบบญี่ปุ่น ที่เรียกว่า เรียวกัง ซึ่งส่วนใหญ่มีออนเซนให้บริการ สัมผัสกับธรรมชาติและบรรยากาศแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น
6. Mt.Mitake : ใครที่เคยอ่านหรือชมภาพยนต์เรื่อง ข้างหลังภาพ” ของศรีบูรพา และอยากเห็นแรงบันดาลใจภาพวาด Mitake ของคุณหญิงกีรติ ต้องไม่พลาดที่นี่ ภูเขา Mitake เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ มีเส้นทาง Trekking เรียกเหงื่อกันเล็กน้อย บนยอดเขามีศาลเจ้าและจุดชมวิว ส่วนด้านล่างเป็นลำธารที่เหมาะแก่การมาปิกนิกพักผ่อนสบายๆ
7. Disney Land : สวนสนุกชื่อดังก้องโลก อยู่ที่เมือง Chiba ไม่ไกลจากโตเกียว สำหรับคุณหนูๆและแฟนคลับ Disney ทั้งหลาย ที่นี่คุณจะมีความสุขมากมายกับจินตนาการที่จับต้องได้จากตัวการ์ตูนของ Disney สำหรับเราบรรยากาศ Disney ที่ญี่ปุ่นไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เพราะคนญี่ปุ่นมีส่วนร่วมกับสวนสนุกมาก คนส่วนใหญ่นิยมแต่งตัวด้วยชุดลายการ์ตูนให้เข้ากับธีมของที่นี่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แค่มองก็สนุกแล้ว 

8. Disney Sea : จากความสำเร็จของ Disney Land ที่ญี่ปุ่น ทำให้ต่อมามีการสร้าง Disney Sea ซึ่งเป็นสวนสนุกในธีมทะเลๆของ Disney ขึ้น และเป็น Disney Sea แห่งเดียวของโลก เครื่องเล่นที่นี่จะออกแนวโลดโผนกว่า Disney Land เหมาะกับเด็กโตหน่อย แต่บรรยากาศของเมืองนิทาน ความน่ารัก และความสนุกไม่แพ้กันเลย     
9. Nikko : เมืองมรดกโลกที่สวยงาม วัดและศาลเจ้าที่นี่มีเอกลักษณ์และแตกต่างจากที่อื่นของญี่ปุ่น เราขอใช้คำว่า “More is More” กับวัดของเมืองนี้ เพราะการออกแบบและตกแต่งที่ประณีต รายละเอียดของสีสันและลวดลายเยอะได้ใจ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งภูเขา น้ำตก และทะเลสาบที่สวยงาม เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮิตมาก
10. Karuizawa : เมืองตากอากาศแสนไฮโซของชาวโตเกียว แนะนำให้เช่าจักรยานขี่ชมเมืองในฤดูร้อน หรือมาเล่นสกีในฤดูหนาว ที่นี่มีลานสกีที่มาง่ายที่สุดจากโตเกียว รวมทั้ง Shopping Outlet ที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น และเพลินเพลินกับร้านค้าน่ารักๆ ร้านอาหารอร่อยๆ บนถนน Karuizawa Ginza